ประวัติเฟรนช์บูลด็อก
เฟรนช์บูลด็อก French Bulldog น้องเฟรนช์บูลด็อก มีนิสัยที่สงบและเป็นมิตรและเป็นสัตว์เลี้ยงที่ดีในครอบครัว ที่มีลูกและแม้แต่ผู้สูงอายุ มีความผูกพันกับมนุษย์มากและชอบที่จะอยู่รอบตัวพวกเขาตลอดเวลา มีความภักดีต่อเจ้าของและสมาชิกในครอบครัวเป็นอย่างมาก และมีนิสัยขี้เล่นด้วยเช่นกัน
เฟรนช์บูลด็อก French Bulldog เป็นสุนัขที่มีความเป็นมายาวนานและน่าสนใจ ตั้งแต่ต้นกำเนิดในอังกฤษจนถึงการพัฒนาสายพันธุ์ในฝรั่งเศส จึงทำให้กลายเป็นสุนัขที่ได้รับความนิยมทั่วโลก มาดูกันว่าประวัติความเป็นมาเป็นอย่างไร
ต้นกำเนิดเฟรนช์บูลด็อก French Bulldog
ด้วยเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์และบุคลิกที่กระตือรือร้น จึงกลายเป็นสายพันธุ์ที่ชื่นชอบในหมู่คนรักสุนัขทุกที่ ลูกสุนัขเหล่านี้มีต้นกำเนิดใน English ครั้งแรกที่ผสมพันธุ์เป็น Bulldog รุ่นเล็กโดยการตั้งชื่อพันธุ์ว่า French หมายถึง ประเทศฝรั่งเศส (France) ถือเป็นแหล่งกำเนิดของ (เฟรนช์ บูลด็อก) ซึ่งพวกเขาได้รับชื่อเล่นว่า Frenchie (เฟรนช์ชี่) ความนิยมของเฟรนช์บูลด็อก จึงแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว จากฝรั่งเศสไปยังประเทศอื่น ๆ ในยุโรปและอเมริกา
ขนาดและโครงสร้าง
- ขนาด : เฟรนช์บูลด็อกเป็นสุนัขขนาดเล็กถึงกลาง มีน้ำหนักเฉลี่ยระหว่าง 16-28 ปอนด์ (ประมาณ 7-13 กิโลกรัม) ความสูงอยู่ที่ประมาณ 11-12 นิ้ว (ประมาณ 28-31 เซนติเมตร)
- โครงสร้าง : มีโครงสร้างที่หนาและแข็งแรง ร่างกายสั้นและกะทัดรัด มีอกกว้างและหลังตรงซึ่งทำให้พวกเขาดูมั่นคงและแข็งแรง
ขนและสีขน สามารถพบได้หลากหลายสี
- ขน : มีขนที่สั้น เรียบ และเงางาม ขนของพวกเขาไม่จำเป็นต้องดูแลมาก ทำให้พวกเขาเป็นสุนัขที่เลี้ยงง่ายในเรื่องของการดูแลขน
- สีขน : สีขนมีหลากหลายสี เช่น สีขาว สีดำ สีน้ำตาล สีลายเสือและสีขาว สีครีม สีน้ำตาลแกมเหลือง บางตัวอาจมีลายหรือลักษณะของขนที่ผสมผสานกัน
ศีรษะและใบหน้า
- ศีรษะ : มีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับร่างกาย ใบหน้าสั้นและมีริ้วรอยลึก
- จมูก : มีจมูกที่สั้นและมักจะมีลักษณะบุ๋ม ทำให้พวกเขามีปัญหาการหายใจในบางครั้ง
- ตา : ตามีขนาดใหญ่และกลม มักจะมีสีเข้มและตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ห่างกัน ทำให้พวกเขามีลักษณะหน้าตาที่เป็นมิตรและน่ารัก
- หู : หูเป็นลักษณะที่โดดเด่น ชัดเจน พวกเขามีหูที่ตั้งตรงและมีลักษณะคล้ายค้างคาว ซึ่งทำให้พวกเขาดูมีเสน่ห์และน่ารัก
วิธีการดูแลและการเลี้ยง French Bulldog
- การให้อาหาร
อาหารที่เหมาะสม : เลือกอาหารสุนัขที่มีคุณภาพสูงและเหมาะสมกับวัย ตรวจเช็คให้แน่ใจว่ามีสารอาหารที่จำเป็นไหม เช่น โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน และแร่ธาตุ การเลี้ยงน้องหมาให้แข็งแรง ควรเลือกอาหารตามวัย อย่างอาหารของเฟรนช์บูลด็อก ในช่วงอายุ 1-3 เดือนต้องเน้นการให้โปรตีนเป็นหลัก หรือในวัยอายุ 7 ปีขึ้นไปต้องเลือกอาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 เพื่อบำรุงกระดูกและทำให้น้องหมาสุขภาพดี
- การออกกำลังกาย
ออกกำลังกายเบาๆ : ไม่ต้องการการออกกำลังกายหนัก แม้ว่าน้องหมาพันธุ์นี้จะมีสุขภาพดีที่สุดในสายพันธุ์บลูด็อก แต่ควรมีการเดินเล่นหรือเล่นเกมที่ไม่หนักเพื่อรักษาสุขภาพ
ระวังความร้อน : หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายในสภาพอากาศที่ร้อน เนื่องจากเฟรนช์บูลด็อกมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคลมแดด
- การดูแลขนและผิวหนัง
การอาบน้ำ : อาบน้ำให้สุนัขเป็นระยะ ๆ ตามความจำเป็น หรือ อาบน้ำเดือนละครั้ง ใช้แชมพูที่เหมาะสำหรับสุนัขและระวังไม่ให้เข้าตา
การแปรงขน : แปรงขนสุนัขเป็นประจำ เพื่อกำจัดขนที่หลุดและสิ่งสกปรก ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและรักษาความสะอาดของขน
การทำความสะอาดใบหน้า : เช็ดใบหน้าสุนัขด้วยผ้าชุบน้ำสะอาดและแห้ง โดยเฉพาะบริเวณรอยพับ ที่อาจมีการสะสมของสิ่งสกปรก
- การดูแลสุขภาพ
การตรวจสุขภาพประจำปี : ควรนำสุนัขไปตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง เพื่อตรวจสอบสภาพร่างกายและการฉีดวัคซีน
การป้องกันเห็บหมัด : ใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันเห็บหมัดเพื่อป้องกันการติดเชื้อหรือใช้ยาป้องกันหมัดที่สัตวแพทย์แนะนำสุนัขที่เหมาะสม โดยมีให้เลือกทั้งยารับประทาน ยาหยด และแชมพู
การดูแลฟัน : แปรงฟันสุนัขอย่างสม่ำเสมอหรืออาจจะแปรงสัปดาห์ 2 – 3 ครั้งให้ของเล่นเคี้ยวที่ช่วยทำความสะอาดฟัน
อาหารที่ห้ามให้น้องหมากิน
- ช็อกโกแลต
เหตุผล : ขนมหวานยอดนิยมทั่วโลก อาหารที่สุนัขห้ามกินเด็ดขาด ในช็อกโกแลตมีสารที่ชื่อว่า สารธีโอโบรมีน (Theobromine) ไม่เป็นอันตรายต่อคน แต่กลับเป็นอันตรายต่อร่างกายสุนัข ที่สุนัขไม่สามารถเผาผลาญได้ หากได้รับสารนี้เข้าไป จะทำให้กล้ามเนื้อเกร็ง หัวใจเต้นแรงหรือเต้นผิดจังหวะ ท้องเสีย หรือทำอาจเสียชีวิตได้
- องุ่นและลูกเกด
เหตุผล : สามารถทำให้เกิดไตวายเฉียบพลันในสุนัข รวมไปถึงทำให้เกิดอาการอาเจียนและอ่อนแรงร่วมด้วย นอกจากองุ่นแล้ว ลูกเกดที่ทำจากองุ่นก็มีอันตรายพอๆ เพื่อป้องกันสุนัข กินเข้าไปโดยไม่ตั้งใจ
- หัวหอมและกระเทียม
เหตุผล : เมื่อสุนัขได้รับหัวหอมและกระเทียมเข้าไปจะทำให้เม็ดเลือดแดงแตก ทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง
- ผลิตภัณฑ์นมวัว เนย เนยแข็ง และผลิตภัณฑ์จากนมวัวทุกชนิด
เหตุผล : ร่างกายสุนัขบางตัวขาดเอนไซม์ที่ไว้ใช้ย่อยนมวัว ทำให้เมื่อทานนมวัวแล้วจะทำให้อาเจียน อาหารไม่ย่อย และท้องเสียได้ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์จากนมวัวอย่างเนยและชีสด้วยเช่นกัน
- ขนมปังที่มีส่วนผสมของยีสต์
เหตุผล : ยีสต์สามารถขยายตัวในท้องสุนัข ทำให้เกิดการขยายตัวของกระเพาะอาหารและอาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง นอกจากนี้ขนมปังและเบเกอรี่ มีปริมาณไขมันและน้ำตาลมากเกินกว่าที่สุนัขต้องการ ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนอีกด้วย
การเข้าสังคมของ French Bulldog กับสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ และคน
เริ่มต้นตั้งแต่ยังเล็ก
- ช่วงเวลาของการเข้าสังคม : เริ่มการฝึกเข้าสังคมตั้งแต่อายุ 3-14 สัปดาห์เป็นช่วงเวลาที่สำคัญ ที่สุดในการพัฒนาพฤติกรรมทางสังคม
- การพบปะกับคนและสัตว์เลี้ยงตัวอื่น : แนะนำสุนัขให้รู้จักกับคนต่างวัย เพศ และลักษณะ รวมถึงสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ
สร้างประสบการณ์ที่ดี
- สิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย : ให้สุนัขอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยและเงียบสงบเมื่อแนะนำให้รู้จักกับสัตว์และคนใหม่
- ให้รางวัล : ใช้ขนมหรือคำชมเมื่อสุนัขมีพฤติกรรมที่ดีและสงบเมื่อต้องเผชิญกับสิ่งใหม่
การฝึกขั้นพื้นฐาน
- คำสั่งพื้นฐาน : ฝึกคำสั่งพื้นฐาน เช่น นั่ง หยุด มา เพื่อให้สุนัขมีพฤติกรรมที่เหมาะสมเมื่ออยู่ร่วมกับคนและสัตว์อื่น
- การควบคุม : ใช้สายจูงเมื่อพาสุนัขออกไปในที่สาธารณะเพื่อควบคุมการกระทำของสุนัขและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
การพบปะกับสุนัขตัวอื่น
- การเล่นกับสุนัขตัวอื่น : พาสุนัขไปที่สนามหรือสถานที่ที่มีสุนัขตัวอื่น เพื่อให้สุนัขได้เล่นและเข้าสังคม
- การตรวจสอบพฤติกรรม : สังเกตพฤติกรรมของสุนัขเมื่ออยู่กับสุนัขตัวอื่น หากสุนัขมีพฤติกรรมก้าวร้าว ควรแยกออกและปรึกษาผู้ฝึกสอนสุนัข
การเข้าสังคมอย่างเหมาะสม จะช่วยให้สุนัขของคุณเป็นสุนัขที่มีพฤติกรรมดี และสามารถปรับตัวได้ในสถานการณ์ต่าง ๆ อย่าลืมให้ความรักและความใส่ใจเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้กับสุนัข
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเฟรนช์ บูลด็อก
French Bulldog เห่าบ่อยไหม
เป็นสุนัขที่มีนิสัยเงียบและไม่เห่าบ่อยเมื่อเทียบกับสุนัขสายพันธุ์อื่น ๆ อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมการเห่าของแต่ละตัวอาจแตกต่างกันไปตามบุคลิกและการเลี้ยงดู
สามารถเลี้ยงร่วมกับสัตว์เลี้ยงอื่นได้ไหม?
สามารถเข้ากับสัตว์เลี้ยงอื่นได้ดีหากมีการแนะนำอย่างเหมาะสมตั้งแต่ยังเล็ก การแนะนำควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไปในสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยเพื่อให้สัตว์เลี้ยงรู้สึกสบายใจ
สามารถอยู่ตัวเดียวได้ไหม?
อยู่ตัวเดียวได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ไม่ควรปล่อยให้อยู่ตัวเดียวนานเกินไป เนื่องจากสุนัขสายพันธุ์นี้มีความต้องการการดูแลและการใส่ใจจากเจ้าของ
มีปัญหาสุขภาพอะไรบ้าง?
- ปัญหาทางเดินหายใจ
- โรคกระดูกสันหลัง
- ปัญหาผิวหนัง
- โรคอ้วน
- ปัญหาการติดเชื้อที่หู
- ปัญหาสายตา
เหมาะที่จะเลี้ยงในครอบครัวหรือไม่
เหมาะกับผู้ที่อาศัยในที่อยู่อาศัยขนาดเล็ก เช่น คอนโดหรืออพาร์ตเมนต์ เนื่องจากสุนัขสายพันธุ์นี้ไม่ต้องการพื้นที่กว้างขวาง และไม่ต้องการการออกกำลังกายหนัก